Monday, September 04, 2006

เหงาๆ


เหงาๆ
ผมร้อยเรียงอักขระที่เห็นเหล่านี้บนหน้ากระดาษที่ว่างเปล่าจนกลายเป็นทิวแถวของถ้อยคำที่พอจะอธิบายความเหงาในช่วงเวลานี้ได้บ้าง ใครคนหนึ่งเคยบอกว่า ความเหงาตัวเท่าบ้านก็เห็นจะจริงโดยเฉพาะในวันที่เราต้องอยู่กับตัวเองมากขึ้น

ต้นเหตุของความเหงาอาจมีหลายสาเหตุ บ้างมาจากการใช้ชีวิตประจำวัน สภาพแวดล้อม คนรัก เพื่อน ฯลฯ หรือแม้กระทั่งความไม่เข้าใจกัน เหงาในที่นี้หากเป็นคนที่ใช้ชีวิตเพียงลำพังกลับมาบ้านไม่เจอใคร คนที่เพิ่งเลิกกับแฟน หรือใช้ชีวิตแบบเด็กหอคงเข้าใจได้ง่ายขึ้น

เมื่อเหงามากๆ สิ่งหนึ่งที่มักจะตามมาคือการไม่มีกำลังใจจะทำอะไร อารมณ์ประมาณเดินไปไหนมาไหนเป็นเห็นหน้าเศร้าๆ นั่นแหละใช่เลย แต่สำหรับบางคนอาการอย่างนี้ก็อาจจะเป็นเพราะเหนื่อยหรือท้อแท้กับอะไรบางอย่างก็ได้เช่นกัน

หลายๆ คนเลือกวิธีคลายเหงาด้วยการอยู่กับเพื่อน กินเหล้า เที่ยวหรือแม้กระทั่งการไปให้ความหวังกับใครสักคนแล้วพอหายเหงาก็ทิ้งเขาไปง่ายๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พอช่วงเวลาเหล่านั้นผ่านไป คนเหล่านั้นอาจไม่รู้ว่าความเหงาได้กอดรัดตัวเขามากขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ผมไม่เคยใช้วิธีบำบัดอาการเหงาแบบนั้น เพราะมันจะทำให้ผมรู้สึกเหงาชิบหายเข้าไปอีก และมักจะพยายามหายเหงาด้วยตัวเองเสมอ ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง ทุกครั้งก็ผ่านมาได้ แม้ว่าจะผ่านมาแบบหัวหกก้นขวิดก็ตาม

การพาตัวเองออกไปเดินนอกบ้านท่ามกลางผู้คนมากมายไม่ได้หมายความว่ามันจะทำให้ความเหงาคลายอ้อมกอดออกจากเราได้อย่างจริงจัง และในทางกลับกันเมื่อเรากลับถึงบ้านก่อนล้มตัวลงนอนความเหงาก็จะกอดรัดเราจนหลับไปพร้อมกับเราเสมอ

ความเหงาทำให้ฝนที่ตกลงมามีอิทธิพลมากกว่าการเป็นหวัด ลมหนาวยามค่ำคืนก็มักจะเพิ่มอุณหภูมิขึ้นทุกครั้งในยามที่ความเหงามาเยือน นักเดินทางเพียงลำพังอาจจะหยุดก้าวเดินเมื่อต้องกระชับอ้อมกอดของตัวเองให้แน่นขึ้นในช่วงเวลาที่เดินสวนกับคู่รักคู่หนึ่งบนท้องถนน และดอกไม้ที่ร่วงโรยรามักจะเพิ่มอารมณ์ของความเหงาได้เป็นทวีคูณเสมอ

ครั้งหนึ่งเคยมีเพื่อนผมคนหนึ่งโทรมาชวนผมไปดูหนัง ให้ทำทุกอย่างแทนแฟนที่เพิ่งเลิกลากันไป ทั้งๆ ที่ตั้งใจตั้งแต่แรกแล้วว่า เมื่อไม่มีเขาก็ต้องอยู่ได้ แต่สุดท้ายก็ทนเหงาจนทนไม่ได้ และต้องหาใครสักคนมาทดแทน ระหว่างกลับบ้านเพื่อนคงโทรหาใครอีกมากมายเพื่อจะได้ไม่มีเวลาเหงา ส่วนผมนั่งรถตู้กลับบ้านคนเดียวไม่ได้โทรศัพท์หาใคร ได้แต่นั่งนิ่งๆ มีเพียงแสงจากเสาไฟฟ้าข้างถนนที่ทอดผ่านตัวไปตลอด และไม่วายที่จะแอบบอกตัวเองว่า เหงาวะ

ใครบางคนเคยบอกว่าช่วงเวลาที่ความเหงาอยู่กับเราของแต่ละคนอาจไม่เท่ากัน แต่ก็ไม่มีใครบางคนออกมายืนยันว่าช่วงเวลาที่เหงาสั้นๆ ดีกว่าช่วงเวลาที่เหงายาวๆ เพราะไม่ว่าจะเหงาสั้นๆ หรือเหงายาว มันก็ทำให้รอยยิ้มของเราจางลงได้เท่าๆ กัน

ชีวิตมีอะไรมากกว่าการมานั่งเหงา ใครสักคนอาจจะบอกเราอย่างงี้ แต่วันหนึ่งหากเขาต้องเหงาบ้างเขาอาจจะพอเข้าใจคำว่าชีวิตได้ดีขึ้น

เพราะคนเราเหงากันทุกวัน ทุกเวลา ไม่เว้นว่าจะเป็นเพราะอะไร….

2 comments:

วิภพ ล้อมเขต said...

อ่านยากอ่ะ
พี่เลยลองเปลี่ยนฟอนท์
กับสีตัวหนังสือให้
ถ้าไม่ชอบ ลองเปลี่ยนเองนะ
ค่าปรึกษา ครั้งละห้าสิบ

เดี๋ยวจะมาช่วยสอนทำลิงค์ให้
แก้เหงาไง :)

วิภพ ล้อมเขต said...

ข้างบนน่ะพี่เอง

พี่แจ๋วจ้ะ