Monday, July 02, 2007

อย่าลืมรักษาสุขภาพ ดูแลตัวเองดีๆ ละ


อย่าลืมรักษาสุขภาพ ดูแลตัวเองดีๆ ละ/วิภพ ล้อมเขต

เม็ดฝนหลายเม็ดที่ล่วงหล่นลงมาบนพื้น เริงระบำเหมือนไฟกระพริบ ในช่วงเวลาที่นกกระจอกตัวหนึ่งยืนหลบฝนอยู่ใต้ซอกเล็กๆ ของหลังคาบ้าน

ช่วงเวลาหลายวันที่ผ่านมา อากาศที่แปรปรวนทำให้ไม่สามารถคาดเดาได้ว่า วันนี้ฝนจะตกหรือแดดจะร้อนจ้า ส่งผลให้สุขภาพของใครหลายๆ คน ทรุดลงเหมือนใบไม้ที่ล่วงหล่นจากลำต้น และในฐานะคนที่ชอบฤดูฝนคนหนึ่ง รวมไปถึงละเลยการออกกำลังกาย ผมเองก็เป็นหนึ่งในใบไม้ที่ล่วงหล่นจากลำต้นเหมือนกัน

ตอนแรก เข้าใจว่าเป็นเพียงอาการเริ่มต้นของไข้หวัดธรรมดา ปล่อยไว้สักพักก็คงหาย แต่หลังจากอาการไข้หวัดได้โบกมือหายไป อาการไอในช่วงเวลากลางคืนเพราะอากาศที่เย็นขึ้นจนทำให้ไอถี่มากขึ้นเป็นพิเศษ แปรเปลี่ยนลุกลามมาเป็นไอตอนกลางวัน และไอตลอดวันถึงขนาดกับบังคับตัวเองไม่ให้ไอไม่ได้ จึงทำให้มั่นใจว่า โรคประจำตัวที่ห่างเหินไปนาน ได้กลับมาเยี่ยมเยียนกันอีกครั้งหนึ่ง และ 3 วันที่ผ่านมาหลังจากที่นอนไอทั้งคืนจนแทบจะไม่ได้นอน สุดท้ายผมก็ยอมเดินเข้าร้านขายยา ซื้อยาให้กับตัวเอง

ก่อนหน้านี้ผมไอจนอ้วก ไอแบบหยุดไม่ได้ ถึงขนาดที่ว่า ไอมากกว่าหายใจ จนแทบจะหายใจไม่ทัน รอดมาได้ก็เพราะน้ำอุ่น กับถุงพลาสติกที่อยู่เป็นเพื่อนเคียงข้างยามนอน และหนักเข้าก็ถึงขั้นไอจนกะบังลมอักเสบ จำได้ว่าสุดท้ายชีวิตในเมืองทำให้ผมต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ นั่นคือการพาตัวเองไปโรงพยาบาลคนเดียวเพียงลำพัง และหลังจากวินิจฉัยอาการอยู่พักหนึ่งใหญ่ๆ ของหมอ ผมถึงรู้ว่าตัวเองเป็น ‘โรคทางเดินหายใจอักเสบ’ แต่เหตุการณ์และอาการเจ็บป่วยนี้ก็ห่างหายจากชีวิตผมไปได้ 3 ปีแล้ว เวียนวนกลับมาเจอกันอีกครั้งในวันที่ร่างกายของผมอ่อนแอลงอย่างน่าตกใจ

ครั้งหนึ่งเพื่อนคนหนึ่งเคยพูดว่า เวลาที่ร่างกายป่วย ถ้าเป็นไปได้ขออย่าให้ใจป่วย ถามถึงสาเหตุของความคิดก็ได้คำตอบกลับมาว่า เป็นเพราะใจนั้นสามารถรักษาร่างกายได้ แต่ร่างกายกลับไม่สามารถรักษาใจ พอโดนเข้ากับตัวเองในช่วงเวลาที่ใจกับร่างกายป่วยลงพร้อมๆ กัน ถึงได้เข้าใจความหมายของเพื่อนชัดเจนขึ้น
หลังจากอธิบายอาการ และตอบข้อซักถามจากเภสัชสาว ผมได้ยาแก้อักเสบกับยาลดอาการไอ มานอนอุ่นใจอยู่ในกระเป๋ากางเกงอย่างละ 12 เม็ด เบ็ดเสร็จแล้วรวมทั้งสิ้น 24 เม็ด พร้อมกับข้อกำชับที่ว่า ผมควรทานหลังอาหารวันละ 3 เวลา ติดต่อกันเป็นเวลา 4 วัน จึงเท่ากับว่า ใน 1 วันจะมียาเม็ดเล็กๆ เข้าไปซ่อมแซมร่างกายผมวันละ 6 เม็ดด้วยกัน และถ้ายังไม่ดีขึ้น อาจจะต้องให้ยาที่แรงกว่านี้ แล้วก็เป็นอย่างที่เภสัชสาวคิด หลังจากกินยาไปได้ 2 วัน ผมก็ได้รับยาตัวใหม่เพิ่มเข้ามาเพื่อขยายหลอดลม และผลข้างเคียงของยาตัวนี้คืออาการ ‘สั่น’ คืนนั้นทั้งคืนนอกจากนอนไอแล้ว ผมเลยนอนสั่นด้วยอีกอาการ

เช้าวันต่อมาประกอบกับเป็นวันหยุด ผมไม่ได้ออกไปทำงาน รวมถึงออกไปข้างนอกหรือที่ไหน และเป็นเพราะว่าต้องกินยา ตื่นขึ้นมาเลยปิ้งขนมปังกินกับกาแฟรองท้องเพื่อลดอาการข้างเคียงของยาที่อาจไปกัดกระเพาะ หลังจากเปิดเพลงที่ชอบฟังในตอนเช้า นั่งเคลียงานเก่าๆ ที่ยังค้าง พอกินยาได้สักพักหนึ่งก็รู้สึกง่วง คิดว่าคงไม่ดีแน่ๆ ถ้าต้องหลับหน้าคอมฯ เลยไปนอนพักเอาแรงบนโซฟาสักแปบหนึ่ง แต่ความอ่อนเพลียของร่างกายที่ไม่ได้นอนแบบเต็มที่มาหลายวันบวกกับฤทธิ์ยา กลับทำให้ผมหลับไปหลายชั่วโมงแบบไม่รู้สึกตัว มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงเม็ดฝนหล่นเคาะหลังคา ซึ่งเป็นช่วงเวลาในตอนเย็นแล้ว
พอต้องตื่นขึ้นมาแบบกะทันหัน เพราะต้องรีบวิ่งไปปิดหน้าต่างกันฝนที่จะสาดเข้ามาในห้องนอน ประกอบกับการไม่ได้กินอะไรเลย ร่างกายที่เจ็บป่วยอยู่แล้ว จึงทำให้ผมเป็นลมแบบกะทันหันขึ้นมาทันที

เริ่มจากอาการมึนหัว คลื่นไส้ แล้วภาพทุกอย่างก็พล่าเลือน และเหงื่อที่แตกพลักออกมาจนชุ่มเสื้อ สุดท้ายหลังจากนอนมึนอยู่กับที่เพียงลำพังพักหนึ่งใหญ่ๆ นอกจากน้ำเปล่าที่กินแก้วแล้วแก้วเล่าให้ร่างกายได้รู้สึกดีขึ้น เมื่อคิดได้ว่าต้องหาอะไรให้ร่างกายได้มีพลังงานสักอย่างมาต่อสู้กับอาการเป็นลม ผมจึงค่อยๆ ลุกขึ้นไปหยิบร่มสีขาวเดินฝ่าสายฝนออกไปหาซื้ออะไรมากินก่อนจะต้องกินยาอีกรอบหนึ่ง

เม็ดฝนหลายเม็ดที่ล่วงหล่นลงมาบนพื้น เริงระบำเหมือนไฟกระพริบ อีกส่วนหนึ่งหล่นลงเคาะร่มสีขาว เสียงดังเปาะแปะ ในช่วงเวลาที่นกกระจอกตัวเดิมยังยืนหลบฝนอยู่ใต้ซอกเล็กๆ หลังคาบ้านเหมือนเดิม

ผมคิดถึงคนในอดีตบางคนที่เคยเป็นห่วงสุขภาพของกันและกันกับคำพูดที่คุ้นเคย “อย่าลืมรักษาสุขภาพ ดูแลตัวเองดีๆ ละ” ที่ตอนนี้ต่างเดินไปบนคนละเส้นทาง และไม่รู้ว่าป่านนี้เธอจะเป็นอย่างไรบ้าง

ระหว่างเดินก้าวต่อก้าวนึกถึงเพลง ‘วันที่ฉันป่วย’ ของวงอาร์มแชร์ขึ้นมาจับใจ
คงจะจริงอย่างที่เธอเคยพูดในตอนที่ผมป่วยแล้วเธอยังอยู่เคียงข้าง

ขนาดตัวเองยังจะเอาตัวไม่รอด
แล้วนับประสาอะไรจะไปดูแลใครสักคน …

13 comments:

Anonymous said...

โอ๋ๆๆ ให้เค้าไปดูแลให้ไม๊ตัว

Anonymous said...

เศร้าจัง...

คิดในแง่ดีสิ
ได้เวลากลับมาอยู่กลับตัวเองแล้ว

คนสุดท้ายที่อยู่กับเราคือ "ตัวเราเอง"

Anonymous said...

just take very good care of yourself,
then everything is gonna be alright,
take care
Dear

Anonymous said...

คนป่วยขี้เหงา:p
มีคำว่าลำพัง 2 ที่ อ่านแร้วมันดูเหงาๆยังไงไม่รุ้

การที่เราอยุ่ได้เพียงลำพัง
ฝ้ายกลับรุ้สึกว่าเรา ยังอยุ่ได้ด้วยตัวเองน่ะ
.
.
ขนาดตัวเองยังจะเอาตัวไม่รอด
แล้วนับประสาอะไรจะไปดูแลใครสักคน …
.
.
ใครสักคน นี่ หมายถึง แม่รึป่าว??

Anonymous said...

....อ่านแล้วพูดอะไรไม่ออก
....ไปๆมาๆตัวเราเองเองแหละที่ต้องดูแลตัวเอง

Anonymous said...

หัวใจดีๆ เกิดจากการดูแลดีๆ :)

Anonymous said...

โห พี่วิ

น่าสงสารจังเลยอ่ะ

ตอนแรกที่รู้มาก็ว่าแรงแล้ว

อ่านดูนี่แรงกว่าที่คิดเกินคาดเลยนะคะเนี่ย

น้ำตาแทบไหล

คนอะไรทำไมน่าสงสารอย่างเงี้ย

ดูและตัวเองดีๆนะคะ

หักโหมเกินไปมันไม่ดี

พักซะบ้าง กินข้าวให้เป็นเวลา

ในช่วงนี้ที่ยังไม่มีใครมาอยู่เคียงข้างดูแลเรา

เราก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี เพื่อไปดูแลคนอื่นต่อใน

อนาคตไงคะ..

Anonymous said...

ล่วงหล่น=ร่วงหล่น

สงสัยเขียนตอนเปื่อยอยู่หรือเปล่านาย

Anonymous said...

หนุ่มเสื้อยับ... เดี๋ยวพี่คนนั้นจะดูแลหัวใจให้เจ้าเอง

จากพี่คนหนึ่ง

วิภพ ล้อมเขต said...

Maxrio said...
เย้ย...ยังชอบผู้หญิงอยู่

Dear...
ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วงจากเบลเยี่ยมนะเพื่อน

faaikinju said...
กลับมาจากอเมริกาคราวนี้ ดูโตขึ้นนะเรา

gift said...
ดูแลตัวเองเช่นกันไอ้น้อง

พี่คนนั้น said...
หัวใจ เหรอพี่ ยังเต้นดีอยู่

alone_g said...
พี่ยังไหว น้องเกด

kimja said...
ครับผม คุณครูภาษาไทยส่วนตัว เออ...ช่วงนี้เปื่อย

พี่คนหนึ่ง said...
หนุ่มเสื้อยับ...555 พี่ไหนอีกละเนี่ย ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วงครับ

Anonymous said...

มันก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ..ที่เราต้องมาดูแลรักษาตัวเอง
ก็ให้เมื่อตอนที่เราเกิดมา..เราก็เกิดมาเพียงลำพัง
แต่อาจจะมีบางช่วงของชีวิตที่มีคนอื่นเค้ามา..
เค้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเรา..
จนเรารู้สึกว่า..เค้าเป็นส่วนหนึงของเรา
แต่อีกนั่นแหละ..มันอาจมีเหตุให้จากกัน
เหลือแต่เพียงความทรงจำดีๆ..ให้จดจำ
และเราต้องอยู่เพียงลำพัง..
ดังเช่นที่เราเกิดมา...ให้ได้
..สู้ สู้ เว้ย เพื่อน..
อย่างน้อยแกก็ยังมีเราและเพื่อนที่เป็นห่วงแกอยู่นะ

ปล.รักษาตัวเองด้วยนะ เราคนไกลคงไปดูแลแกไม่ได้

Anonymous said...

อ่านไปก็เห็นภาพ เรื่องเจ็บป่วยนี้มันยากที่จะห้ามกันได้นะคะ แต่จริงอย่างที่ว่าใจอย่าให้ป่วยไปด้วย

เขียนได้น่าติมตามดีคะ เรื่องเรียบๆ เรื่องของการเจ็บป่วย แต่ชวนให้อ่านไปจนจบ อ่านแล้วก็อยากรู้ว่าจะเป็นยังไงต่อ ตกลงหายรึยังคะ

หายเร็วๆนะคะ

Anonymous said...

อ้อนว่ะ
แต่อ้อนอะไรเนี่ย
คงต้องไปถามพี่คนนั้นนะ
haha